15 ของอับโชคไม่แนะนำให้มอบเป็น...
ReadyPlanet.com


15 ของอับโชคไม่แนะนำให้มอบเป็นของขวัญ "วันตรุษจีน"


  วันตรุษจีน 2567 ในปีนี้ตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งตามวัฒนธรรมชาวจีน หรือคนไทยเชื้อสายจีนแล้วถือเป็นวันปีใหม่ที่จะมีการเฉลิมฉลองร่วมกัน และแน่นอนจะต้องมีการมอบของขวัญวันตรุษจีนให้กันและกัน แต่ก็มีของขวัญต้องห้าม และนี่คือ 15 ของขวัญวันตรุษจีนต้องห้าม เพราะมีความหมายในด้านลบ ไม่อยากหน้าแตก เช็กได้จากตรงนี้

 

15 ของขวัญวันตรุษจีนต้องห้าม

1.สร้อยคอ เนคไท และเข็มขัด ของขวัญที่สื่อความสัมพันธ์ลึกซึ้ง

อย่าเผลอมอบสร้อยคอเป็นของขวัญให้เพื่อนสนิท เพราะคนจีนมักมองว่าของขวัญประเภท สร้อยคอ เนคไท และเข็มขัด สื่อถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด มักเป็นของขวัญที่แฟนหนุ่ม/แฟนสาว หรือคู่รักมอบให้กันมากกว่า

2.กระเป๋าสตางค์ บอกลาเงิน บ๊ายบายโชคลาภ

ในวัฒนธรรมจีนโบราณ การมอบกระเป๋าสตางค์เป็นของขวัญ เสมือนกับการมอบเงินทั้งหมดให้แก่ผู้รับ ส่งผลให้เงินทองร่อยหรอ โชคลาภเลือนหาย แต่ไม่ต้องกังวลไป หากเป็นการมอบให้คู่ชีวิตหรือสมาชิกครอบครัวที่ร่วมใช้บัญชีและทรัพย์สินอยู่ร่วมกัน ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องเสียหายแต่อย่างใด

3.ผ้าเช็ดหน้า บอกลาชั่วนิรันดร์

ผ้าเช็ดหน้ามักถูกใช้ในงานศพ เป็นสัญลักษณ์ของการจากลาชั่วนิรันดร์ การมอบผ้าเช็ดหน้าเป็นของขวัญอาจสื่อถึงการตัดขาดความสัมพันธ์ ทำให้เพื่อนตกใจคิดว่าคุณไม่อยากคบค้าสมาคมด้วยอีกแล้ว

4.ตุ๊กตา สื่อถึงสิ่งชั่วร้าย

ในบางวัฒนธรรม คนจีนบางกลุ่มมองตุ๊กตาผ้าว่าเป็น "คนตัวเล็ก" หมายถึง คนชั่วร้าย ดึงดูดวิญญาณร้ายเข้ามา

5.ร่ม สัญลักษณ์การเลิกรา

อย่าเผลอมอบร่มเป็นของขวัญ เพราะภาษาจีนคำว่า "ร่ม" พ้องเสียงกับคำว่า "เลิกรา" การให้ร่มเป็นของขวัญ อาจตีความได้ว่า คุณรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของคุณกับบุคคลนั้นกำลังร้าวฉาน

6.หมวก โชคร้าย

ในประเทศจีน เมื่อคนแก่เสียชีวิต ลูกๆ ของเขาหรือเธอจะสวมหมวกไว้ทุกข์ ดังนั้นการมอบหมวกเป็นของขวัญในวันตรุษจีนจึงเป็นสิ่งต้องห้าม ในเมืองหานตาน (เมืองในมณฑลเหอเป่ย) ในวันส่งท้ายปีเก่าของจีน ผู้คนจะขว้างหมวกเก่าๆ ไปตามถนนด้วยความหวังว่าจะขจัดความเศร้าโศกและปัญหาต่างๆ ออกไป

7.ของสีดำหรือขาว

ของสีดำและสีขาวเป็นสีที่สื่อถึงความโศกเศร้า ดังนั้นของขวัญ กระดาษห่อของขวัญ ซองใส่ของขวัญ ควรหลีกเลี่ยงสีดำหรือสีขาวเป็นหลัก เพราะอาจทำให้ดูไม่เหมาะสมกับบรรยากาศงาน ในทางตรงกันข้าม สีแดงเป็นสีที่สื่อถึงความรื่นเริงและโชคลาภ จึงเหมาะมากที่จะใช้กับของขวัญ ของชำร่วย หรือซองใส่เงินในงานศพ ช่วยลดบรรยากาศโศกเศร้าและนำโชคลาภมาสู่ผู้รับ

8.ของมีคม ตัดความสัมพันธ์

การให้อะไรที่คม เช่น มีดหรือกรรไกร ถือเป็นการให้ของขวัญที่ไม่เป็นมงคล เพราะเชื่อกันว่าจะตัดความสัมพันธ์ให้ขาดสะบั้น เปรียบเสมือนคำพูดที่ว่า "ตัดสินใจครั้งเดียว ความสัมพันธ์ก็จบสิ้น" ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการให้ของขวัญประเภทนี้ เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีให้ยืนยาว

9.ลูกแพร์ สื่อถึงการจากลา

การให้ผลไม้เป็นของขวัญถือเป็นสิ่งที่ดี แต่ลูกแพร์เป็นผลไม้ต้องห้าม เพราะคำว่า "ลูกแพร์" ในภาษาจีนพ้องเสียงกับคำว่า "จากลา" จึงถือเป็นการให้ของขวัญที่ไม่เป็นมงคล เชื่อกันว่าจะทำให้ผู้รับต้องจากไปหรือพลัดพรากจากกัน ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการให้ลูกแพร์เป็นของขวัญ เพื่อป้องกันความหมายที่ไม่ดี

10.เทียนหอม เพื่อบูชาผู้ตาย เทียนมักจะใช้ควบคู่กับเครื่องบูชาสำหรับผู้เสียชีวิตในประเทศจีน ดังนั้นจึงไม่สามารถให้เป็นของขวัญได้ไม่ว่าจะเป็นเทียนไร้ตำหนิ เทียนหอม หรือเทียนธรรมดา

11.ดอกไม้ตัดสด มักจะนิยมนำไปใช้ในงานปลงศพ ดังนั้น ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ควรหลีกเลี่ยงการนำไปเป็นของขวัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดอกเบญจมาศสีเหลือง และดอกไม้สีขาวทั้งหลาย เนื่องจากสื่อถึงความสูญเสีย สีขาวในวัฒนธรรมไทยมักเกี่ยวข้องกับงานโศกเศร้า จึงควรเลี่ยงดอกไม้สีขาวอย่างเด็ดขาด

12.กระจกเงา ถือเป็นของขวัญที่ไม่เหมาะสม เพราะเชื่อกันว่าจะดึงดูดวิญญาณร้าย นอกจากนั้น ยังแตกง่าย ซึ่งการทำอะไรแตกถือเป็นลางไม่ดี

13. รองเท้า ไม่เหมาะเป็นของขวัญในเทศกาลตรุษจีน เพราะคำว่า "รองเท้า" พ้องเสียงกับคำว่า "邪" (xié) ซึ่งแปลว่า "ความชั่วร้าย" หรือ "โชคร้าย" นอกจากนี้ รองเท้ายังเป็นสิ่งที่เราใช้เหยียบย่ำ จึงถูกมองว่าเป็นของขวัญที่ไม่ให้เกียรติ ควรหลีกเลี่ยงการให้รองเท้าเป็นของขวัญโดยสิ้นเชิง

14.เลข 4 ชวนให้นึกถึงความตาย

ในภาษาจีน เลข 4 พ้องเสียงกับคำว่า "ตาย" ทำให้สิ่งของใด ๆ ที่มีเลข 4 อยู่ ถือเป็นของอัปมงคล ควรหลีกเลี่ยงการให้ของขวัญเป็นชุดหรือจำนวนที่หารด้วย 4 ลงตัว หรือแม้แต่ตัวเลขที่มีเลข 4 อยู่ เช่น 14, 24, 34, 40, 44 เป็นต้น

15.นาฬิกา ของขวัญที่ชวนให้นึกถึงงานศพ

ในภาษาจีนการพูดว่า "ให้ของขวัญเป็นนาฬิกา"พ้องเสียงกับคำว่า "ไปร่วมงานศพ" จึงถือเป็นการให้ของขวัญที่ไม่เป็นมงคล



ผู้ตั้งกระทู้ mm :: วันที่ลงประกาศ 2024-01-12 14:08:53


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล