ทุกคนต่างงดงามในแบบฉบับของตัวเ...
ReadyPlanet.com


ทุกคนต่างงดงามในแบบฉบับของตัวเอง รวม 6 คำพูดจากคนดังที่ชวนหันมารักร่างกายของเราเอง


  

 

ศัลยกรรมเกาหลี ร้อยไหม ดึงหน้า ฉีดโบท็อกซ์ รอบเอว 360 องศา และอื่นๆ อีกมากมาย เข้าถึงง่าย ไม่ต้องบินไกลถึงเกาหลี ที่ K Beauty Hospital


“ถ้าฉันไม่ตรงตามมาตรฐานความสวยของยุคนี้ งั้นฉันจะสร้างมาตรฐานของฉันขึ้นมาเอง” – ฮวาซา

เป็นที่ทราบกันดีว่า วงการศิลปินเกาหลีมีมาตรฐานความสวยที่โหดมากๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง หน้าตา หรือสีผิว จนเกิดเป็นความบอบช้ำของวัยรุ่นเกาหลีหลายคนที่ต้องฝ่าฟันกับการลดน้ำหนัก ศัลยกรรม หรือเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างหนักเพื่อให้ได้เดบิวต์เป็นศิลปิน แต่ไม่ใช่สำหรับ ‘ฮวาซา’ (Hwasa) หรือ อันฮเยจิน (Ahn Hye-Jin) ศิลปินมากความสามารถทั้งร้อง เต้น และแร็ป จากวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง MAMAMOO ซึ่งตอนนี้เธอเป็นเหมือนไอคอนในการปฏิวัติมาตรฐานความสวยของคนเกาหลีและคนทั่วโลก ด้วยรูปร่างที่ไม่ได้ผอมเพรียวหรือผิวขาวเหมือนศิลปินหญิงคนอื่นๆ


แม้จะสตรองแค่ไหน ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอไม่เคยเจ็บปวดกับมาตรฐานความสวยนะ เพราะที่ผ่านมาเธอก็แบกรับความเห็นเชิงลบจากชาวเน็ตและคนรอบข้างอยู่บ่อยๆ เพียงแต่เธอสามารถลุกขึ้นมาได้และพยายามยืนหยัดและขับเคลื่อนเพื่อให้ทุกคนรักในสิ่งที่ตัวเองเป็นมากขึ้น 

โดยครั้งหนึ่งเธอได้เล่าเรื่องของตัวเองในคอนเสิร์ต จนกลายเป็นไวรัลว่า “วันหนึ่งฉันไปออดิชั่นเป็นศิลปิน แล้วคุณครูบอกฉันว่า ‘เธอเป็นคนมีเอกลักษณ์และร้องเพลงเพราะนะ แต่เธออ้วนและไม่สวย’ ขณะที่ฉันกำลังร้องไห้และดูคลิปคอนเสิร์ตที่ฉันชอบทั้งคืน ฉันก็ได้สัญญากับตัวเองว่า ถ้าฉันไม่ตรงตามมาตรฐานความสวยของยุคนี้ งั้นฉันจะสร้างมาตรฐานของฉันขึ้นมาเอง”

 

 

“ฉันมีรอยแตกลายทั่วร่างกาย มันเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าร่างกายของฉันกล้าที่จะใช้พื้นที่ในสังคม ที่เอาแต่ต้องการความผอมของเราแบบไม่สิ้นสุด” – จามีลา จามิล


หลายคนอาจจะคุ้นหน้าเธอคนนี้ในซีรีส์คอมเมดี้ The Good Place เธอคือ จามีลา จามิล (Jameela Jamil) นักแสดง นางแบบ และนักเคลื่อนไหวหญิงชาวอังกฤษที่พยายามส่งต่อค่านิยมความสวยในแบบใหม่ โดยยอมรับสิ่งที่หลายคนมองว่าไม่เพอร์เฟ็กต์ แต่เป็นธรรมชาติของร่างกายมนุษย์อย่าง ‘รอยแตกลาย’ บนผิว หรือเซลลูไลต์ที่เกินออกมาจากชุดชั้นในหรือชุดที่รัดรูป

ครั้งหนึ่งเธอโพสต์รูปหน้าอกที่มีรอยแตกลายลงในอินสตาแกรม และตั้งชื่อให้กับรอยแตกนั้นว่า Bebe Marks ซึ่งเธอมองว่ารอยแตกที่หน้าอกเป็นเรื่องปกติ แถมยังเป็นสิ่งที่สวยงามด้วยซ้ำไป โดยเธอยังกล่าวอีกว่า “ฉันมีรอยแตกลายทั่วร่างกาย มันเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าร่างกายของฉันกล้าที่จะใช้พื้นที่ในสังคม ที่เอาแต่ต้องการความผอมของเราแบบไม่สิ้นสุด”

 

“หลายๆ ครั้งที่เขื่อนอัพฯ รูป ก็ยังมีคอมเมนต์ในรูปแบบแอบแฝงว่าเป็นห่วงอยากให้โกนขนขาเพื่อความสวย เราอย่าลืมนะคะว่าความสวยงามเป็นเรื่องปัจเจก และกลับมาที่ my body my choice เราควรเคารพการตัดสินใจกับการเลือกเกี่ยวกับร่างกายของทุกๆ คนนะคะ” – เขื่อน ภัทรดนัย เสตสุวรรณ

ในประเทศไทยเอง ไอคอนในการขับเคลื่อนมาตรฐานความสวยก็มีอยู่เยอะทีเดียว หนึ่งในนั้นก็คือ เขื่อน – ภัทรดนัย เสตสุวรรณ อดีตสมาชิกวงเคโอติก ที่เราจะเห็นได้ว่าเขาสนุกกับการแต่งตัวและมีความพึงพอใจในร่างกายของตนเองมากแค่ไหน อีกทั้งยังส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คนให้กล้าที่จะแต่งตัวมากขึ้นด้วย

แต่หลายครั้งเขื่อนก็ได้รับความเห็นหรือคำวิจารณ์เกี่ยวกับการแต่งตัวหรือร่างกาย เช่น ถูกบอกให้ไปโกนขนขา ซึ่งเขื่อนมองว่าทุกคนควรมีสิทธิ์ที่จะเลือกหรือตัดสินใจเกี่ยวกับร่างกายของตนเอง และได้ออกมาโพสต์ชี้แจงว่า “เขื่อนเป็นคนหนึ่งที่มีขนขาเยอะมากๆ ค่ะ มีขนตั้งแต่ขาขึ้นไปถึงก้นเลย และหลายๆ ครั้งที่เขื่อนอัปฯรูป ก็ยังมีคอมเมนต์ในรูปแบบแอบแฝงว่าเป็นห่วงอยากให้โกนขนขาเพื่อความสวย เราอย่าลืมนะคะว่าความสวยงามเป็นเรื่องปัจเจก และกลับมาที่ my body my choice เราควรเคารพการตัดสินใจกับการเลือกเกี่ยวกับร่างกายของทุกๆ คนนะคะ”

 

 

“เราเริ่มแก้ผ้าหน้ากระจกแล้วมองตัวเอง พอเรารู้ว่าไม่ชอบส่วนไหน ก็ค่อยๆ เรียนรู้ที่จะรักมัน โอเค ฉันมีอยู่จริง มีรอยแตกจริงๆ มีไขมันจริงๆ แต่แล้วทำไม? มันคือธรรมชาติของฉัน ฉันจะรักเธอ (พูดหน้ากระจก)” – ซิลวี่ ภาวิดา มอริจจิ

ในหลายประเทศ ‘สาวพลัสไซส์’ มักจะถูกเหยียดและรังแกเสมอ จึงเป็นที่มาของเพลง XL โดย ซิลวี่ – ภาวิดา มอริจจิ นักร้องที่เราคุ้นหน้ากันดีจากเวที The Star และ The Voice Thailand ซึ่งเพลงนี้เป็นเพลงที่เธอตั้งใจทำออกมาเพื่อสร้างพลังบวกให้กับคนที่ไม่ตรงมาตรฐานความสวยในสังคม และผลักดัน Body Positivity ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

โดยครั้งหนึ่งซิลวี่ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง The MATTER ถึงเรื่องราวเมื่อก่อนที่เคยถูกมาตรฐานความสวยกดทับ และเคยถูกล้อเรื่องรูปร่างอยู่บ่อยๆ จนวันหนึ่งเธอสามารถก้าวผ่านความปวดร้าวนั้นมาได้ เปลี่ยนทัศนคติของตัวเองเกี่ยวกับความสวย รวมถึงได้แรงบันดาลใจจากคนดังมากมาย เช่น คิม คาเดเชียน หรือแอชลีย์ เกรแฮม ซึ่งเป็น Plus Size Model ทั้งหมด ทำให้เธอกล้าที่จะเป็นตัวเองมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ เธอยังได้เล่าเคล็ดลับให้เราฟังด้วยว่า “เราเริ่มแก้ผ้าหน้ากระจกแล้วมองตัวเอง พอเรารู้ว่าไม่ชอบส่วนไหน ก็ค่อยๆ เรียนรู้ที่จะรักมัน โอเค ฉันมีอยู่จริง มีรอยแตกจริงๆ มีไขมันจริงๆ แต่แล้วทำไม? มันคือธรรมชาติของฉัน ฉันจะรักเธอ (พูดหน้ากระจก)”

 

“เนื่องจากฉันไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ จึงใช้เวลานานหน่อยกว่าจะทำใจยอมรับได้ ฉันเป็นคนที่แตกต่าง แต่ความแตกต่างก็เป็นเรื่องที่ดีนะ” – เซเรนา วิลเลียมส์

“ผู้หญิงอะไรกล้ามใหญ่จัง” มนุษย์ทุกคนมีมวลกล้ามเนื้อที่แตกต่างกัน บางคนมีมาก บางคนมีน้อย แต่การที่ผู้หญิงมีมวลกล้ามเนื้อมาก ก็มักจะถูกล้อเลียนอยู่บ่อยๆ ว่าไม่เหมาะสมกับเป็นผู้หญิงเลย

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นบ่อยกับนักกีฬาหญิง เช่น เซเรนา วิลเลียมส์ (Serena Williams) อดีตนักเทนนิสหญิงมือ 1 ของโลกที่มีร่างกายแข็งแรง เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อจำนวนมาก แต่ถึงแม้เธอจะสุขภาพดีแค่ไหนก็ตาม รูปร่างที่ไม่ตรงตามมาตรฐานความสวยนั้นก็ทำให้เธอแบกรับคำพูดและความรู้สึกที่แย่อยู่เรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเธอยอมรับตัวเองได้มากขึ้น

เธอกล่าวในนิตยสาร Harper’s Bazaar ว่า “ด้วยความที่ฉันไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ฉันจึงใช้เวลานานหน่อยกว่าจะทำใจยอมรับได้ ฉันเป็นคนที่แตกต่าง แต่ความแตกต่างก็เป็นเรื่องที่ดีนะ”

 

“เราชอบตัวเองมากๆ โตมากับการเป็นนักกีฬา ร่างกายแอนช่วยให้แอนทำสิ่งต่างๆ ได้ การมีสะโพก อกใหญ่ มีเนื้อหน่อย มันเป็นธรรมชาติของผู้หญิงที่เราเห็นได้ทั่วไป” – แอนชิลี สก๊อต-เคมมิส

แม้สุดท้ายจะไม่ได้คว้ามงใน Miss Universe 2021 แต่สิ่งที่ แอนชิลี สก๊อต-แคมมิส ได้ฝากไว้ก็คือความมั่นใจที่สร้างขึ้นได้ยากในสังคมที่ถูกมาตรฐานความสวยกดทับมาอย่างยาวนาน ซึ่งแคมเปญ Real Size Beauty ของเธอได้ทำให้ผู้คนตระหนักมากขึ้นว่าร่างกายของคนเราไม่เหมือนกัน และการใช้มาตรฐานเดียวในการวัดหรือประเมินนั้นอาจไม่ถูกต้องสักเท่าไหร่

ที่ผ่านมา แอนชิลีได้รับความเห็นเชิงลบมากมายเกี่ยวกับรูปร่างของเธอที่ไม่ตรงตามมาตรฐานของกองประกวดนางงาม เช่น ร่างใหญ่เกินไป อ้วนเกินไป กล้ามเนื้อเยอะเกินไป แต่เธอก็ได้แสดงให้เห็นว่าเธอพึงพอใจในร่างกายของตนเองมากแค่ไหน และทุกคนก็ควรพอใจในร่างกายของพวกเขาด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะรูปร่างไหน หรือไซส์อะไร

 

โดยเธอได้ให้สัมภาษณ์กับ Vogue Thailand ว่า “เราชอบตัวเองมากๆ โตมากับการเป็นนักกีฬา ร่างกายแอนช่วยให้แอนทำสิ่งต่างๆ ได้ การมีสะโพก อกใหญ่ มีเนื้อหน่อย มันเป็นธรรมชาติของผู้หญิงที่เราเห็นได้ทั่วไป ถ้าเขาจะคิดว่าเราอ้วนก็เรื่องของเขา เรารู้ว่าเราดูแลตัวเอง กินดี ชอบออกกำลังกาย มีความสุขกับชีวิตก็พอแล้ว”



ผู้ตั้งกระทู้ KBH :: วันที่ลงประกาศ 2024-03-02 10:54:31


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล