|
Monkeypox รุนแรงในเด็กหรือไม่? นี่คือสิ่งที่ผู้ปกครองควรรู้ | |
องค์การ อนามัย โลก (WHO) ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศในวันที่ 24 กรกฎาคม มีรายงานผู้ป่วยโรคฝีฝีดาษมากกว่า 43,000 รายจาก 92 ประเทศตั้งแต่เดือนพฤษภาคม อินเดียยังได้รายงานสิบกรณีเพื่อให้ห่างไกล คนสูงอายุหรือเด็กที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อได้ง่าย จากข้อมูลของ WHO อัตราส่วนการเสียชีวิตจากโรคฝีดาษในลิงมีตั้งแต่ 0 ถึง 11 เปอร์เซ็นต์ในประชากรทั่วไปและสูงกว่าในเด็กเล็ก ในช่วงไม่กี่ครั้งที่ผ่านมา อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยอยู่ที่ประมาณสามถึงหกเปอร์เซ็นต์ ภาวะแทรกซ้อนและความรุนแรงของฝีฝีในเด็กในระดับที่สูงขึ้นนั้นไม่ได้ถูกระบุโดยองค์การอนามัยโลกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงองค์กรอื่นๆ อีกหลายแห่งด้วย การศึกษาโดย Lancet Child And Adolescent Health Journal จากการเปรียบเทียบข้อมูลทางระบาดวิทยาของการระบาดของอีสุกอีใสครั้งก่อนในแอฟริกา ชี้ให้เห็นว่าอัตราการโจมตีทุติยภูมิอาจสูงขึ้นถึงร้อยละ 12 ถึง 3 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี"เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดี ภาวะแทรกซ้อนจะพบได้บ่อยในเด็กและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง โดยมีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย ภาวะติดเชื้อ โรคเคราอักเสบ ภาวะแทรกซ้อนทางเดินหายใจเนื่องจากฝีในคอหอยและปอดบวม หรือโรคไข้สมองอักเสบ" เล่นง่าย ถอนไว มา ทางเข้าpg ที่นี่ที่เดียว พ่อแม่สามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกติดเชื้อโรคฝีลิง?ดร.แดเนียล กันเจียน กุมารแพทย์ที่ศูนย์สุขภาพโพรวิเดนซ์ เซนต์ จอห์นในสหรัฐฯ ได้แบ่งปันข้อควรระวังกับ Medical News Today และกล่าวว่า “อย่างแรกเลย โอกาสที่ [เด็ก ๆ ] จะไม่ได้รับ [monkeypox] ที่สถานรับเลี้ยงเด็กหรือโรงเรียนไม่มาก เนื่องจากการปฏิบัติด้านสุขอนามัยที่เพิ่มขึ้นที่พวกเขาทำที่นั่น จึงควรลดโอกาสของการติดเชื้อทั้งหมด รวมถึงการแพร่ระบาดของโรคฝีในลิง” ดร.กันเจียน กล่าว อาการเริ่มแรกของโรคอีสุกอีใสจะคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ แต่ให้คอยสังเกตอาการอื่นๆ ของลูก เช่น มีไข้ ปวดศีรษะรุนแรง ต่อมน้ำเหลืองบวม ปวดหลัง และผื่นขึ้น ในกรณีที่มีอาการเหล่านี้ ควรทำการวินิจฉัยที่เหมาะสมทันทีเพื่อควบคุมไวรัสในระยะเริ่มแรก | |
ผู้ตั้งกระทู้ you :: วันที่ลงประกาศ 2022-08-30 20:05:37 |
Visitors : 141230 |